อินแกรม

AV-98 Ingram

First appearance Mobile Police Patlabor: Early Days
Designer Yutaka Izubuchi
Overall height 8.2 m
Base weight 6 t Full weight 6.62 t
Armor fiber reinforced plastic, carbon fiber reinforced metal
Armaments

  • anti-labor stun stick
  • 37 mm revolver cannon
  • 90 mm riot cannon
  • shield

เลเบอร์สมรรถนะสูงของสำนักงานตำรวจที่พัฒนาโดยบริษัทอุตสาหกรรมหนักชิโนฮาระซึ่งประจำอยู่กับแผนกยานพาหนะพิเศษ 2 เพื่อใช้รับมืออาชญากรรมเลเบอร์ที่มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ชื่ออินแกรมนั้นมาจาก INdeterminate GRound Armed Mobile และพัฒนาต่อมาจากเครื่องทดสอบ MPL97AV-T อินแกรมนั้นได้รับการออกแบบโดยตั้งใจให้ดูเท่เนื่องจากต้องการให้มีภาพลักษณ์ที่ดูดีอย่างผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ เมื่อเทียบกับเลเบอร์ทั่วๆไปแล้วอินแกรมนับว่าใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่าปกติมาก ระบบการจ่ายพลังงานนั้นใช้ตัวนำยิ่งยวดเป็นสื่อ ระบบการเคลื่อนไหวของอินแกรมนั้นสามารถจำลองการเคลื่อนไหวของมนุษย์ได้อย่างเกือบสมบูรณ์ ส่วนเซนเซอร์นั้นนอกจากกล้องแล้วยังมีอุปกรณ์อินฟราเรดและโซนาร์ ระบบคอมพิวเตอร์ของอินแกรมจะบันทึกการควบคุมของนักบินทำให้สามารถปรับตัวและตอบสนองต่อการควบคุมของนักบินได้ดีขึ้นเรื่อยๆ มือแบบห้านิ้วของอินแกรมนั้นสามารถใช้ทำงานที่ต้องการความละเอียดสูงได้โดยใช้ถุงมือโมชันเทรเซอร์ควบคุมการเคลื่อนไหว อินแกรมยังเป็นเลเบอร์รุ่นแรกๆซึ่งใช้ค็อกพิตแบบปิด โดยที่นั่งนักบินนั้นสามารถเลื่อนตำแหน่งได้จากหน้าอกช่วงบนซึ่งมีช่องให้นักบินมองออกไปภายนอกได้ลงไปที่ลำตัวซึ่งมีการป้องกันที่ดีกว่าแต่นักบินต้องอาศัยเซนเซอร์ในการมองเท่านั้น ส่วนแขนของอินแกรมสามารถยืดออกไปได้ ซึ่งคุณสมบัตินี้เดิมทีมีไว้สำหรับใช้ดึงปืนลูกโม่ที่เก็บไว้ที่น่อง เวลาปฏิบัติการนั้นจะใช้รถบรรทุกไปยังที่เกิดเหตุและให้ผู้บังคับบัญชาประสานงานจากรถตู้

เนื่องจากเป็นเลเบอร์ตำรวจที่เน้นการจับกุมเลเบอร์อาชญากรและต้องระวังให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดขณะต่อสู้ในตัวเมือง อาวุธหลักของอินแกรมจึงเป็นพลองไฟฟ้าซึ่งเก็บไว้ในโล่ที่แขนซ้ายซึ่งสามารถทำให้เลเบอร์คนร้ายลัดวงจรได้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้โดยปกตินั้นเป็นปืนลูกโม่ 37 มม. ซึ่งใช้กระสุนที่มีกำลังพอใช้ยิงหยุดเลเบอร์ก่อสร้างที่ไม่หุ้มเกราะได้เท่านั้นเพื่อลดความเสียหายในกรณีที่ยิงพลาด แต่สามารถเปลี่ยนเป็นกระสุนแบบอื่นๆได้ตามการใช้งานซึ่งรวมถึงกระสุนเจาะเกราะในกระณีที่ต่อสู้กับเลเบอร์ทหาร ถ้าต้องต่อสู้กับเป้าหมายที่เป็นอันตรายมากจริงๆแล้วก็สามารถเบิกใช้งานปืนลูกซอง ไรอัทแคนน่อน 90 มม.ได้ อุปกรณ์นอกจากนี้ยังมีไฟสัญญาณแบบติดตั้งภายในแล้วก็รอกตะขอ แต่เนื่องจากต้องการให้คล่องตัวอินแกรมจึงใช้เกราะแบบไฟเบอร์เสริมโลหะและพลาสติกเพื่อให้มีน้ำหนักเบาจึงไม่ทนทานนัก โดยเฉพาะส่วนมือนั้นเปราะบางจนนับว่าไม่เหมาะจะใช้ชก ค็อกพิตของอินแกรมยังนับว่านั่งลำบากพอสมควร ค่าใช้จ่ายในการผลิตอินแกรมยังสูงมากจนได้สร้างใช้งานเพียงสามเครื่องเท่านั้น โดยเครื่องแรกนั้นนักบินประจำคืออิซึมิ โนอาตั้งตั้งชื่อเล่นให้ว่าอัลฟอนส์ เนื่องจากโนอานั้นไม่ชอบทำให้เลเบอร์เสียหายจึงถนัดด้านการต่อสู้ในระยะประชิดตัวและความว่องไว ส่วนเครื่องที่สองนั้นเป็นของอิซาโอะ โอตะ ซึ่งถนัดการใช้งานแบบเน้นกำลังและอาวุธปืน ซึ่งหลังจากที่ใช้งานแบบสมบุกสมบั่นจนเสียหาย จึงได้ใช้พาร์ทรุ่นใหม่โดยเปลี่ยนเซนเซอร์และระบบควบคุมการยิงมาใช้เป็นการทดสอบในตัว ส่วนเครื่องที่สามนั้นไม่มีการใช้งานประจำแต่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อใช้งานด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์

รูปแบบของอินแกรมนั้นยังใช้เป็นเครื่องฝึกควบคุม คือ AV-98T ดอแฟน ซึ่งมีระบบใกล้เคียงกับอินแกรม แต่เปลี่ยนเซนเซอร์และเกราะเป็นแบบเรียบง่ายและใช้ค็อกพิตแบบเปิดด้านบน ปืนที่ใช้นั้นบรรจุกระสุนสีสำหรับฝึกซ้อม เนื่องจากอินแกรมนั้นมีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่สูงมากและมีสมรรถนะที่นับว่าเกินความจำเป็นต่อภารกิจปราบปรามอาชญากรรมเลเบอร์โดยทั่วไป สำนักงานตำรวจจึงได้มีกำหนดการปลดระวางอินแกรมเพื่อขยายกำลังพลด้วย AVS-98 อินแกรมอีโคโนมี ซึ่งมีราคาเพียงหนึ่งในสิบของอินแกรม อีโคโนมีนั้นใช้พื้นฐานของอินแกรมแต่ใช้ชิ้นส่วนที่ราคาถูกกว่าจึงมีสมรรถนะที่ตำกว่ามาก เนื่องจากนักบินต้องใช้สายตาตัวเองในการมองภายนอกเป็นหลัก หน้าต่างสำหรับมองออกไปภายนอกที่หน้าอกจะใหญ่กว่าอินแกรมและค็อกพิตก็นั่งสบายกว่า อีโคโนมีนั้นใช้ซอฟแวร์ชุดเดียวกับอินแกรมจึงสามารถถ่ายข้อมูลการใช้งานได้และเมื่อเทียบกันแล้วจะบังคับได้ง่ายกว่าอินแกรม แต่ก่อนหน้าที่อินแกรมจะถูกปลดระวางนั้น อีโคโนมีก็ถูกกริฟฟอนโจมตีในงานเลเบอร์โชว์ ซึ่งการปรากฏตัวของกริฟฟอนนี้ทำให้เลเบอร์สมรรถนะสูงอย่างอินแกรมเป็นเรื่องจำเป็นขึ้นมาจึงได้ระงับการปลดระวางออกไปก่อน บริษัทชิโนฮาระได้ปรับปรุงอีโคโนมีเป็น AVS-98Mk-II อินแกรมสแตนดาร์ด ซึ่งเป็นเครื่องต้นแบบที่มีสมรรถนะด้านความคล่องตัวและกำลังที่ใกล้เคียงกับอินแกรมมากกว่าเดิม แต่หลังจากที่อินแกรมสแตนดาร์ดพ่ายแพ้ในการต่อสู้ทดสอบกับอัลฟอนส์จึงได้ระงับการเสนอขายให้สำนักงานตำรวจและผลิตเชิงพาณิชย์ขายให้บริษัทรักษาความปลอดภัยของเอกชนแทน

อินแกรมนั้นในที่สุดก็ถูกปลดระวางหลังจากที่ AV-2 วาเรียนท์ เข้าประจำการหลังการปรับโครงสร้างหน่วย 2 โดยวาเรียนท์นั้นใช้ระบบค็อกพิตที่ปรับปรุงมาจากอินแกรมสแตนดาร์ด โดยค็อกพิตจะกว้างขึ้นและช่องสำหรับมองออกไปภายนอกที่หน้าอกนั้นได้ปรับปรุงให้ใสเสมอ ที่หน้าอกติดตั้งลำโพงที่ดึงเข้ามาในตัวได้ ส่วนหัวของวาเรียนท์ใช้โมเดลของอัลฟอนส์แต่ปรับปรุงให้เรียบง่ายขึ้นและย้ายเสาอากาศไปไว้ที่บ่าซึ่งมีโอกาศหักน้อยลง ใช้อาวุธแบบเดียวกับของอินแกรม วาเรียนท์ยังมีเครื่องฝึกซ้อมเรียกว่า AV-2T เลเออ แต่ในการรัฐประหารของอดีตกองกำลังป้องกันตัวเองนั้น กลุ่มรัฐประหารได้ใช้เฮลิคอปเตอร์จู่โจม เฮลฮาวน์ เข้าโจมตีหน่วย 2และทำลายวาเรียนท์ที่ประจำการอยู่จนหมด จึงต้องนำอินแกรมกลับมาปฏิบัติการอีกครั้งโดยเสริมเสื้อเกราะแบบเกราะกันกระสุนให้เพื่อลดจุดอ่อนด้านการป้องกัน

av-98t.jpg

AV-98T Dolphan

First appearance Mobile Police Patlabor
Designer Yutaka Izubuchi
Overall height 7.54 m
Base weight 5.5 t
Armor high-tension steel, carbon fiber reinforced plastic
Armaments

  • stun stick
  • paint gun
  • shield
Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License