
DTM-7000 Daughseat
First appearance After War Gundam X
Designer Junya Ishigaki
Head height 16.4 m
Base weight 6.3 t
Armaments
- claw arm
- beam gun
- torpedo launcher
MSแบบสะเทินน้ำสะเทินบกของสหพันธ์โลกในช่วงสงครามอวกาศครั้งที่7 ส่วนแขนนั้นสามารถยืดออกไปได้และมีบีมกันติดไว้ ที่ไหล่มีตอร์ปิโดลันเชอร์ โดซีทนั้นใช้ใบพัดเป็นระบบขับเคลื่อนและมีกล้องเพอริสโคปอยู่ด้านหลัง โดซีทยังมีรุ่นปรับปรุงคือ DTM-7200 โดซีททรี ซึ่งเพิ่มความสามารถในการรบใต้น้ำโดยเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตซึ่งทำให้มีความเร็วใต้น้ำสูงขึ้นมาก แต่ก็หนักขึ้นและทำให้สมรรถนะบนบกลดลงมาด้วย ส่วนเล็บของโดซีททรีมีขนาดใหญ่ขึ้นและติดบีมกันสองกระบอก

DTM-7200 Daughseat III
First appearance After War Gundam X
Designer Junya Ishigaki
Head height 17 m
Base weight 7.6 t
Armaments
- claw arm
- beam gun
- torpedo launcher

RMS-019 Clouda
First appearance After War Gundam X
Designer Junya Ishigaki
Head height 18 m
Base weight 8.4 t
Armaments
- beam cutter
- vulcan gun
- beam rifle
MSที่กองกำลังปฏิวัติอวกาศพัฒนาหลังสงครามอวกาศครั้งที่ 7 คลาวดามีสมรรถนะที่สูงมากและมีเกราะซึ่งหนาจนสามารถทนอาวุธบีมได้ อาวุธหลักของคลาวดาก็คือบีมไรเฟิลซึ่งมีอานุภาพสูงและด้านหลังก็ติดบีมคัตเตอร์ขนาดใหญ่ที่แผ่ออกมาเหมือนปีกซึ่งคลาวดาจะใช้เฉือนศัตรูโดยบินโฉบด้านข้างด้วยความเร็วและสามารถใช้ทำลายได้แม้แต่ยานแม่ เสริมด้วยปืนวัลแคนติดหัว คลาวดามีท่อขับดันขนาดใหญ่ให้อยู่รอบตัวเนื่องจากต้องการให้มีความคล่องแคล่วสูงซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้สามารถทำลายคลาวดาได้ในครั้งเดียว คลาวดาเครื่องจ่าฝูงคือ RMS-19Rนั้นจะมีเขาเสาอากาศติดหัวอยู่ด้วยสองเขา ซึ่งหนึ่งในเครื่องจ่าฝูงนั้นเป็น MSประจำตัวของแลนสโลว์ ดาเวล ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าของจามิลในครั้งสงครามอวกาศครั้งที่ 7

RMS-019R Clouda Lancerow Custom

MA-06 Grandeene
First appearance After War Gundam X
Designer Junya Ishigaki
Overall height 34 m
Base weight 72 t
Armaments
- 200 mm anti-air beam cannon
- photon particle cannon
MAขนาดใหญ่ซึ่งกองกำลังปฏิวัติอวกาศใช้ในการโจมตีโลกในช่วงสงครามอวกาศครั้งที่ 7 แกรนดีเนมีอาวุธหลักเป็นปืนใหญ่อนุภาคโฟตอนซึ่งมีพลังทำลายและระยะยิงที่ไกลมากและมีบีมแคนน่อนติดไว้ที่ขาเหมือนป้อมปืนต่อต้านอากาศยานสำหรับป้องกันตัว ขาของแกรนดีเนนั้นเดินได้ลำบากมาก แต่ที่เท้ามีระบบโฮเวอร์อยู่จึงสามารถแล่นเหนือพื้นได้ด้วยความเร็วพอสมควร แกรนดีเนเครื่องหนึ่งนั้นเป็นของฟอน อัลเทอเนทีฟ ผู้ก่อตั้งบริษัทอัลเทอเนทีฟที่วิจัยเรื่องนิวไทป์และให้พี่น้องฟรอสต์ลักพาตัวทีฟา อาดิลให้ ก่อนที่อัลเทอเนทีฟจะหักหลังพี่น้องฟรอสต์โดยใช้แกรนดีเนยิงโจมตีขณะที่พี่น้องฟรอสต์กำลังต่อสู้กับกลุ่มวัลเจอร์ที่นำโดยยานฟรีเดน แกรนดีเนเครื่องนี้นั้นอยู่ในสภาพที่ซ่อมแซมได้ไม่สมบูรณ์จึงต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ยกขนย้ายทางอากาศ

MAN-003 Patulia
First appearance After War Gundam X
Designer Junya Ishigaki
Overall length 617 m
Base weight 38800 t
Special feature Field generator
Armaments
- wired beam cannon
- particle cannon
MAขนาดมหึมาของกองกำลังปฏิวัติอวกาศซึ่งออกแบบสำหรับให้นิวไทป์ใช้งานตามปฏิบัติการไลแล็คเพื่อโจมตีศูนย์บัญชาการของสหพันธ์โลกในช่วงสงครามอวกาศครั้งที่ 7 แม้จะเป็น MA แต่โครงสร้างของพาทูเลียนั้นก็คล้ายกับยานแม่โดยมีลำตัวคล้ายกับมนุษย์เหมือนสะพานเดินเรือ อาวุธของพาทูเลียประกอบด้วยบีมแคนน่อนติดสายเคเบิลแบบควบคุมด้วยพลังจิต 30 กระบอก และสามารถกางส่วนที่เหมือนลำยานเพื่อยิงปืนอนุภาคขนาดใหญ่สี่กระบอกได้ พาทูเลียยังมีเครื่องกำเนิดสนามพลังติดไว้ทั่วตัวซึ่งทำให้สามารถบินได้และป้องกันการโจมตีจากอาวุธบีมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตามแผนของปฏิบัติการไลแล็คนั้น พาทูเลียจะลงโจมตีโลกพร้อมกับเบอร์ติโกซึ่งทำหน้าที่คุ้มกัน ซึ่งการบังคับพาทูเลียนั้นจะต้องให้นิวไทป์เข้าไปในไซคอมมิวดัคท์ของพาทูเลียเพื่อบังคับเครื่องด้วยพลังจิต แต่ผลข้างเคียงจากการบังคับพาทูเลียนั้นจะทำให้จิตใจค่อยๆเเสื่อมสภาพจนอาจอยู่ในสภาพโคม่าอย่างถาวร
ปฏิบัติการไลแล็คนั้นล้มเหลวหลังจากที่การโจมตีขีดขวางของกองทัพสหพันธ์โลกทำให้พาทูเลียออกนอกหลุดออกนอกเส้นทาง จนกระทั่งยุคหลังสงครามซึ่งโนโมอา ลอง อดีตนักวิจัยของกองกำลังปฏิวัติอวกาศได้ค้นพบและแอบซ่อมแซมพาทูเลียอย่างลับๆโดยตั้งเมืองฟอร์ทเซเวิร์นไว้บนโรงเก็บที่ใช้ซ่อมแซมพาทูเลียเป็นการปกปิดแผนของตน และในที่สุดก็ได้ใช้มนุษย์ดัดแปลง คาริส นอติลุสเป็นแหล่งพลังจิตของพาทูเลีย

Esperansa
First appearance After War Gundam X
Designer Junya Ishigaki
Overall length 18.3 m
Base weight 6.3 t
Armaments
- machine cannon
- beam cannon
MAขนาดเล็กที่ซีวัลเจอร์ ลูมาร์ค เคาท์สร้างจากชิ้นส่วนอะไหล่ที่เก็บๆมา ถึงจะเป็น MAที่สร้างจากชิ้นส่วนขยะแต่เอสเปรันซาก็สามารถบินได้ด้วยความเร็วสูงมากเลยทีเดียวและติดตั้งอาวุธเป็นมาชีนแคนน่อนกับบีมแคนน่อนขนาดเล็กอย่างละสองกระบอก ซึ่งด้วยความเร็วของเอสเปรันซานั้นทำให้สามารถหลบหลีกการโจมตีของศัตรูแล้วเข้ายิงใส่ในระยะประชิดได้ง่าย ลูมาร์คนั้นขายเอสเปรันซาให้เอนิล เอลไป ซึ่งตอนแรกนั้นเอนิลตั้งใจใช้โจมตียานฟรีเดนแต่หลังจากที่ได้เป็นเพื่อนกับโทนียา มามซึ่งเป็นลูกเรือของฟรีเดนแล้วจึงได้ตัดสินใจถอนตัวไป เอนิลนั้นได้บังเอิญไปเห็นการทดสอบกันดั้ม DXที่ซอนดาเอปตาและถูกพี่น้องฟรอสต์ตามปิดปาก ซึ่งเอสเปรันซาก็ถูกทำลายแต่เอนิลนั้นรอดมาได้

DT-6600 Daughtap
First appearance After War Gundam X
Designer Junya Ishigaki
Overall height 10 m
Base weight 5.2 t
Armaments
- claw arm
- 80 mm cannon
โมบิลพ็อดซึ่งสหพันธ์โลกใช้เป็นกำลังสนับสนุนภาคอวกาศของโดเทรสในช่วงสงครามอวกาศครั้งที่ 7 มีอาวุธเป็นปืนใหญ่ 80 มม.ใต้ลำตัว ส่วนแขนของโดแท็ปเป็นแบบเดียวกับโดเทรสแต่มีมือเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ ในยุคหลังสงครามนั้น ซีวัลเจอร์ที่ทำงานในทะเลก็ได้ทำการดัดแปลงโดแท็ปให้ใช้งานงมของในน้ำ โดยปรับโครงสร้างให้กันน้ำและติดใบพัดเป็นระบบขับเคลื่อน ส่วนแขนนั้นเปลี่ยนมาใช้แขนของโดซีทและติดตอร์ปิโดลันเชอร์สี่ลำกล้องไว้แทนปืนใหญ่