ดีมอนเบน
demonbane.jpg

Demonbane

First appearance Deus Machina Demonbane
Designer Miyatake Kazutaka, Machida Yoshihiko
Height 55.5 m
Weight 4254 t
Armor Hihi'irogane
Special feature 'Shantak' flight system, Mirror of Nitocris, 'Atlach-Nacha' magic web, 'Elder Sign' barrier
Armaments

  • vulcan gun
  • 'Timaeus' & 'Critias' shinguard
  • Scimitar of Barzai
  • 'Cthugha' & 'Ithaqua' divine beast handgun
  • 'Lloigor' & 'Zhar' devine beast blade
  • 'Shining Trapezohedron' seal sword

Special attacks

  • Atlantis Strike
  • Atlantis Tornado Strike
  • Lemuria Impact
  • Lemuria Delay Impact
  • Lemuria Impact Ain Soph Aur

เดอุสมาคินา หุ่นยนต์ที่ทำงานด้วยเทคโนโลยีเวทมนตร์ซึ่งโคโซ ฮาโด มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งเมืองอาร์คัมซิตีเก็บรักษาไว้เพื่อรอใช้ต่อต้านกลุ่มอาชญากรไสยเวท แบล็คล็อดจ์ หลังจากที่โคโซหายตัวไป รูริ ฮาโด ผู้เป็นหลานสาวจึงได้จ้างนักสืบเอกชน คุโร ไดจูจิ ให้หาอัล อาซีฟ ต้นฉบับของตำราเวทย์ นีโครโนมิคอน ที่จำเป็นต่อการใช้งานดีมอนเบนจากหอสมุดของมหาวิทยาลัยมิสคาโทนิคซึ่งคุโรนั้นเคยเป็นนักศึกษาก่อนจะลาออกมา ปรากฏว่าอัล อาซีฟนั้นเป็นต้นฉบับมีชีวิตในร่างของสาวน้อยซึ่งคุโรได้ช่วยไว้จากการตามล่าของดร.เวสต์ นักวิทยาศาสตร์ของแบล็คล็อดจ์ อัลได้ทำสัญญากับคุโรทำให้สามารถแปลงร่างเป็นมากิอุสสไตล์ซึ่งมีพลังเหนือมนุษย์และใช้เวทมนตร์ได้ ก่อนจะเป็นขึ้นบังคับดีมอนเบนเข้าต่อสู้กับแบล็คล็อดจ์เสียเอง ในขณะที่บังคับดีมอนเบนนั้นอัลจะทำหน้าที่เหมือนโอเปอเรเตอร์ ดีมอนเบนนั้นต่างจากเดอุสมาคินาเครื่องอื่นๆนั่นคือใช้เกราะโลหะฮิฮิโรงาเนะแทนโอลิฮากอนและต้องเก็บไว้ในโรงเก็บเหมือนเครื่องจักรทั่วไป ที่ขาทั้งสองข้างของดีมอนเบนมีแผงโล่ขนาดใหญ่ ทีไมออส และ คริเทียส ซึ่งมีระบบสร้างการบิดเบี้ยวของมิติเวลาทำให้ดีมอนเบนสามารถเคลื่อนไหวแบบฝืนกฏฟิสิกส์ได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนั้นยังสามารถปล่อยพลังงานออกไปเป็นท่าเตะ แอทแลนติสสไตรค์ ที่หัวของดีมอนเบนติดปืนวัลแคนไว้ และมีท่าไม้ตาย เลมูเรียอิมแพ็คท์ ซึ่งบีบอัดพลังงานและความร้อนมหาศาลไว้ที่ฝ่ามือก่อนอัดใส่ศัตรูแล้วให้ระเบิดออกมาเหมือนบิ๊กแบงขนาดเล็ก เนื่องจากเลมูเรียอิมแพ็คท์นั้นมีพลังทำลายสูงมากการจะใช้งานแต่ละครั้งในช่วงแรกจึงต้องให้รูริใช้นาคาลโคดปลดล็อกเสียก่อน เลมูเรียอิมแพ็คท์ยังสามารถหน่วงการทำงานเพื่อทำลายศัตรูจำนวนมากได้เรียกว่า เลมูเรียดีเลย์อิมแพ็คท์

ดีมอนเบนและคุโรยังสามารถใช้อุปกรณ์และเวทมนตร์อื่นๆตามที่อัลมี แต่ตอนแรกนั้นอัลทำหน้ากระดาษตัวเองหายไปหลายแผ่นจึงต้องเก็บคืนมาทก่อน โดยสามารถกางบาเรียร์ เอลเดอร์ไซน์ ส่วนที่เหมือนเส้นผมพลังงานบนหัวนั้นสามารถใช้เป็นใยแมงมุมเวทมนตร์ของแอทลัคนาชาหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูได้ สามารถใช้กระจกของนิโทคริสสร้างภาพลวงตาของดีมอนเบนหลอกล่อศัตรู และมีดาบวงเดือนบาไซขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ขว้างได้เหมือนบูมเมอแรง ดีมอนเบนนั้นเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักในการต่อสู้กับเดอุสมาคินาของแอนติครอสทั้งหกคนและอัลที่เอาตัวป้องกันคุโรไว้ก็ได้รับบาดเจ็บจนหายไป ดร.เวสต์ที่มาเข้ากับพวกรูริจึงดัดแปลงดีมอนเบนให้ทำงานได้โดยใช้แอนดรอยด์ เอลซา เป็นโอเปอเรเตอร์แทนอัล ซึ่งทำให้ความสามารถของดีมอนเบนเหลือแค่ระบบพื้นฐาน เมื่ออัลกลับมาและทำให้ดีมอนเบนคืนสภาพสมบูรณ์ก็ได้อัพเกรดให้บินได้ด้วยปีก แชนแทค ซึ่งเดิมเป็นระบบบินของไอออน เดอุสมาคินาดั้งเดิมของอัล

หลังการต่อสู้กับเบลเซบิวท์ซึ่งคุโรตัดแขนของเบลเซบิวท์ซึ่งเก็บเทพอสูรแห่งไฟ คธุกกา ไว้นั้น คุโรได้ใช้งานคธุกกาครั้งแรกโดยเรียกมาในการต่อสู้กับเทพแฝดของอมนุษย์ดีพวัน ดากอนกับไฮดรา แต่เนื่องจากคธุกกาไม่ใช่ข้อมูลเดิมของอัลจึงควบคุมพลังของคธุกกาและทำให้เกาะถูกไฟหายไปทั้งเกาะ ในการต่อสู้ครั้งต่อมากับเทพแห่งลม อิธาควา ซึ่งทำให้อาร์คัมซิตีโดนพายุหิมะพวกรูริจึงสร้างปืนพลาสมาให้ใช้พลังของคธุกกาได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าปืนจะพังไปหลังจากที่ยิงได้นัดเดียวและคุโรก็หายเข้าไปในห้วงมิติของอิธาควา แต่คธุกกาที่ชอบใจคุโรก็ได้ช่วยสยบอิธาควาไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะทำสัญญากับคุโร ดีมอนเบนนั้นสามารถใช้พลังของเทพอสูรทั้งสองได้อย่างสมบูรณ์โดยสร้างเป็นปืนคู่ตามแบบปืนของเนโร หนึ่งในแอนติครอสของแบล็คล็อดจ์ ซึ่งในสภาพปืนนี้คธุกกาจะยิงออกไปเป็นกระสุนระเบิดเพลิงอานุภาพสูง ส่วนกระสุนของอิธาควานั้นมีอานุภาพด้อยกว่าแต่สามารถยิงให้เลี้ยวเพื่อเล็งโจมตีจุดอ่อนของศัตรูได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้นดีมอนเบนยังสามารถแปลงสภาพปืนทั้งสองกลับเป็นเทพอสูรให้โจมตีศัตรูได้ตามต้องการ ดีมอนเบนยังมีเทพอสูรอีกสองตัว คือ ชาร์ กับ ลอยกอร์ ซึ่งปรากฏร่างเป็นมีดคู่ที่เอามาประกอบกันเป็นกงจักรขว้างได้

ความจริงนั้น ดีมอนเบนได้ผ่านกาลเวลาที่หมุนซ้ำมาแล้วนับพันๆรอบ โดยในการต่อสู้กับลิเบอร์เลกิสของมาสเตอร์เทเรียนผู้นำสูงสุดของแบล็คล็อดจ์ในห้วงเวลาประหลาดของยอกโซธอทนั้น ทั้งคู่ได้ต่อสู้ผ่านดวงดาวต่างๆข้ามกาแล็กซี จนกระทั่งดีมอนเบนได้พ่ายแพ้และตกลงมาบนโลกในยุคดึกดำบรรพ์ แรงกระแทกของดีมอนเบนทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไป อัลหายสาปสูญ ส่วนคุโรเองก็มาโผล่ในอดีตหลายปีก่อน คุโรได้พบกับศพของโคโซ ฮาโดพร้อมลายแทงสายแร่ทองคำจึงสวมรอยเป็นโคโซก่อนจะรับพ่อของรูริเป็นบุตรบุญธรรม และหลังจากที่เตรียมการให้ตัวเองอีกคนในห้วงเวลานี้ได้ควบคุมดีมอนเบนอีกครั้งในอนาคต ก็ไปสู้กับมาสเตอร์เทเรียนและถูกฆ่าตาย ซึ่งในห้วงเวลาที่วนซ้ำนี้นั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่โคโซสามารถเขียนตำราเวทย์ของตนเองและใช้ต่อสู้กับลิเบอร์เลกิสก่อนจะสละตนเองผนึกลิเบอร์เลกัสและดีมอนเบนไว้ในมิติอื่น จนกระทั่งเมื่อทั้งคู่กลับมาโดยใช้ดาวอังคารเป็นวงเวทขนาดใหญ่นั้น ดีมอนเบนก็กลายเป็นร่าง กันชินโคชู เทพสงครามดีมอนเบน ซึ่งตอนแรกนั้นก็มีขนาดใหญ่จนอัลต้องบังคับผ่านไอออนเป็นนักบินของกันชินโคชูอีกที กันชินโคชูได้ขยายร่างมหึมาจนทำให้จักรวาลที่ตนอยู่แตกสลาย และในตอนที่สู้กับกันชินโคชูลิเบอร์เลกิสในช่องว่างมิตินั้นก็พลั้งมือปัดจักรวาลอื่นแตกไปอีก แต่หลังจากที่ต่อสู้กันหลายกัปกัลป์โดยไม่มีใครแพ้ชนะ กันชินโคชูทั้งสองเครื่องก็ถูกไนอาลาโธเทปลบออกไปจากความเป็นจริงที่ดำเนินอยู่และกลับไปสู่วังวนเดิมก่อนหน้า

ห้วงเวลาที่ซ้ำไปมาของดีมอนเบนนั้นในที่สุดก็จบลงเมื่อดีมอนเบนได้ดาบไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนซึ่งมีพลังที่สามารถผนึกได้แม้แต่เทพ และคุโรก็ใช้แอทลัคนาชาลากลิเบอร์เลกิสให้ตกลงมาบนโลกด้วยกันก่อนที่ดีมอนเบนและลิเบอร์เลกิสจะเรียกไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนออกมาเตรียมฟาดฟันอีกฝ่าย เป็นตามแผนของไนอาลาโธเทปซึ่งตั้งใจให้ไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนทั้งสองเล่มปะทะกันจนแตกสลายไปทั้งคู่ เพราะแท้จริงแล้วไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนก็คือจักรวาลปิดที่ถูกบีบอัดซึ่งใช้ผนึกเอาเตอร์ก็อดทั้งหลายไว้ รวมถึง อซาธอท ผู้ปกครองแห่งสรรพสิ่ง ซึ่งเมื่ออซาธอทเป็นอิสระก็จะทำให้จักรวาลทั้งมวลกลายเป็นจักรวาลแห่งความวุ่นวาย แต่อัลรู้ตัวในจังหวะสุดท้ายและเตือนให้คุโรยั้งพลังจากไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนของตัวเองได้ทัน กลายเป็นว่าไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนของดีมอนเบนกลืนเอาของลิเบอร์เลกิสมาเป็นเล่มเดียวกัน ก่อนที่คุโรจะใช้ขจัดไนอาลาโธเทปและลิเบอร์เลกิสไปซะทั้งคู่ ดีมอนเบนที่ใช้พลังไปทั้งหมดในการต่อสู้นั้นได้ล่องลอยไปในอวกาศ แต่อัลใช้พลังส่งคุโรกลับไปตอนเริ่มเรื่องซึ่งเมื่อไนอาลาโธเทปและลิเบอร์เลกิสหายไปจากจักรวาลนี้จึงไม่มีแบล็คล็อดจ์และแอนติครอส เหลือแต่ดร.เวสต์กับเอลซาที่ยังคงเอาหุ่นยนต์ออกมาอาละวาดพังตึกอยู่เนืองๆ ส่วนอัลเองนั้นในที่สุดก็กลับมาหาคุโรได้โดยใช้สำเนาของตัวเองที่อยู่ในหอสมุดของมหาวิทยาลัยมิสคาโทนิค

พวกคุโรกลับไปทำงานนักสืบกันต่อโดยไม่มีดีมอนเบน จนกระทั่งสาวน้อยลึกลับ อนาเธอร์บลัด ได้ขโมยสำเนาของนีโครโนมิคอนไปจากมหาวิทยาลัยมิสคาโทนิคพร้อมกับที่แอนติครอสและมาสเตอร์เทเรียนต่างก็กลับมายังจักรวาลนี้ ทั้งหมดนั้นก็เป็นฝีมือของอนาเธอร์บลัดที่ต้องการสร้างเรื่องราวของดีมอนเบนอีกครั้งโดยที่ตัวเองจะจับคู่กับคุโรแทนอัล และใช้สำเนาของนีโครโนมิคอนเรียก ดีมอนเบนบลัด สีแดงมาจัดการกับหุ่นยนต์ของด็อกเตอร์เวสต์ แต่ก็ถูกเด็กหนุ่มลึกลับ คุซากุขัดขวางไว้ด้วย ดีมอนเบนทูว์ซอร์ด ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของดีมอนเบน ทีไมออสและคริเทียสนั้นได้รับการปรับปรุงจนใช้บินได้และยังเป็นไบน์เดอร์สำหรับเก็บอาวุธเทพอสูรในขณะที่ไม่ใช้งาน ในความเป็นจริงนั้น แม้แต่ไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนก็ไม่อาจผนึกไนอาลาโธเทปที่เกิดจากจิตของเอาเตอร์ก็อดได้สมบูรณ์ ไนอาลาโธเทปที่กลับมาจากจักรวาลคู่ขนานอีกแห่งได้สร้างอนาเธอร์บลัด นีโครโนมิคอนฉบับเลือด ซึ่งเป็นลูกสาวของอัลกับคุโรจากอนาคตคู่ขนานที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงซึ่งดำเนินอยู่ โดยใช้ประโยชน์จากความต้องการที่จะมีตัวตนของอนาเธอร์บลัดสร้างความวุ่นวายและกลับมาจักรวาลของพวกคุโรอีก ส่วนตัวจริงของคุซากุก็คือคุซากุ ไดจูจิ ลูกของคุโรกับอัลในอนาคตอีกสายที่คุโรกับอัลกลายเป็นเทพเอลเดอร์ก็อด ซึ่งคอยขัดขวางแผนการของไนอาลาโธเทปในจักรวาลต่างๆ ทั้งสองคนได้ให้รูริในห้วงเวลาของตนเลี้ยงดูคุซากุและรูริก็ได้สร้างดีมอนเบนทูว์ซอร์ดให้ คุซากุนั้นเป็นลูกครึ่งตำราเวทย์ที่มีข้อมูลเวทมนตร์อยู่ในรหัสพันธุกรรมของตนเองจึงใช้ดีมอนเบนทูว์ซอร์ดได้เอง เมื่อรูริได้ความจำของตัวเองในจักรวาลคู่ขนานมาก็ได้ซ่อมแซมดีมอนเบนจนเสร็จแล้วให้คุโรกับอัลเอาไปใช้ ซึ่งเมื่ออนาเธอร์บลัดรู้ว่าตนถูกไนอลาโธเทปบงการก็ได้หันมาช่วยพวกคุโรโดยทำหน้าที่เป็นคู่หูของคุซากุ

ร่างสุดยอดของดีมอนเบนก็คือ เอลเดอร์ก็อดดีมอนเบน ซึ่งก็คือดีมอนเบนที่มีเอลเดอร์ก็อดคุโรกับอัลเป็นผู้บังคับ ขอบเขตพลังของเอลเดอร์ก็อดนั้นถ้ามองด้วยสายตาของมนุษย์ที่รับรู้สิ่งต่างๆได้แค่ในจักรวาลก็เป็นเหมือนพระเจ้าที่สามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการ ซึ่งเอลเดอร์ก็อดดีมอนเบนนั้นได้ปรากฏตัวหลังจากที่คุโรใช้ไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนกับ คล็อกเวิร์คแฟนธอม ร่างเครื่องจักรของไนอาลาโธเทปที่กลืนทั้งจักรวาลไว้ในตัวทำให้ไม่สามารถใช้ไชน์นิงทราเปโซเฮดรอนหนึกได้ แต่เอลเดอร์ก็อดดีมอนเบนที่ปรากฏตัวนั้นก็ใช้ความสามารถ แอทเลตาเอเทอร์นัม เรียกดีมอนเบนอื่นๆมาช่วย ไม่ว่าจะเป็นจากอดีตหรืออนาคต จากจักรวาลคู่ขนาน และแม้แต่ดีมอนเบนซึ่งอยู่ในห้วงเวลาที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงในจักรวาลใดๆก็สามารถเรียกออกมาได้ นั่นก็คือเรียกมาได้ไม่จำกัด กองทัพดีมอนเบนได้ทำลายคล็อกเวิร์คแฟนธอมก่อนที่เอลเดอร์ก็อดจะปรับเหตุการณ์ในห้วงเวลาใหม่ให้เรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้นแล้วจากไป มีเพียงคุโรกับอัลและคุซากุกับอนาเธอร์บลัดเท่านั้นที่ยังจำเรื่องราวทั้งหมดได้

demonbane_twosword.jpg

Demonbane Two-Sword

Armor Hihi'irogane
Special feature 'Elder Sign' barrier
Armaments

  • 'Cthugha' & 'Ithaqua' divine beast handgun
  • 'Lloigor' & 'Zhar' devine beast blade
  • 'Timaeus' & 'Critias' shinguard

Special attacks

  • Atlantis Strike
  • Blast Blitz
  • Knight of Two Swords
  • Lemuria Impact
Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License