กันแทงก์ R-44

F50D Guntank R-44

First appearance Mobile Suit Gundam F91
Designer Kunio Okawara
Head height 10.3 m
Base weight 8.7 t Full weight 11.8 t
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Power output 1050 kW
Armaments

  • finger launcher
  • 4-tube missile pod
  • 200 mm cannon

เดิมทีนั้น SNRI (Strategic Naval Research Institute) ได้พัฒนา D-50C โลโท ซึ่งเป็น MSขนาดเล็กของหน่วยลับพิเศษของสหพันธ์โลก เอคอส ตามเงื่อนไขที่ต้องการ MSขนาดเล็กเพื่อให้เหมาะกับปฏิบัติการลีบพร้อมกับที่สามารถใช้งานลำเลียงพลทหารและมีความคล่องตัวสูง ซึ่ง SNRIนั้นได้ใช้เตาปฏิกรณ์ขนาดเล็กที่กำลังพัฒนาอยู่พร้อมกับออกแบบให้โครงสร้างใช้พื้นที่เสียเปล่าน้อยที่สุดและติดตั้งเกราะไว้เล็กน้อยเท่านั้นจึงสามารถลดขนาดของโลโทลงมาเหลือเพียง 12.2 เมตรได้ โลโทนั้นสามารถแปลงร่างจาก MSเป็นรถลำเลียงพลหุ้มเกราะได้โดยมีพื้นที่บรรทุกทหารได้ 8 นายกับทีมบังคับโลโทอีกสามนาย พร้อมกับมีที่เก็บอาวุธหนักแยกต่างหาก โลโทมีเซนเซอร์และระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ แต่พลังในการต่อสู้นั้นก็ยังนับว่าด้อยกว่า MSทั่วๆไปอยู่มาก แขนทั้งสองข้างของโลโทไม่ใช่มือแต่เป็นบ็อกซ์ลันเชอร์ ซึ่งใช้เก็บมิสไซล์ลันเชอร์ขนาดเล็กกับแขนกลติดบีมเบิร์นเนอร์ซึ่งเป็นเหมือนบีมเซเบอร์ขนาดเล็กที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือทำงานได้ด้วย โลโทยังสามารถติดอาวุธเสริมไว้ที่ไหล่ได้ซึ่งโดยปกติแล้วจะติดปืนกล 25 มม.สำหรับยิงต่อสู้กับพลเดินเท้าหรือพาหนะขนาดเล็กไว้ที่ไหล่ขวา แต่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเมก้าแก็ตลิ่งกันสี่ลำกล้องหรือปืนใหญ่ 200 มม.ติดที่ไหล่ทั้งสองข้างซึ่งเป็นรูปแบบที่เหมาะจะใช้ต่อสู้กับ MSมากขึ้น

เมื่อ SNRI ได้ทำการพัฒนา MSแบบลดขนาดตามโปรเจ็คท์ฟอมูลาร์แข่งกับแอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกส์นั้น รูปแบบของโลโทก็ได้รับการพัฒนาไปเป็น F50D ซึ่งมีปืนใหญ่ 200 มม.ติดไหล่สองข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและตั้งใจให้ดูคล้ายกับรถถัง Gบุล เมื่อแปลงร่างเป็นแบบรถถังนั้นศูนย์ถ่วงของ F50Dจะต่ำลงจึงรับแรงถีบของปืนใหญ่ได้ดีขึ้นมากแต่ความคล่องตัวก็ลดลงมาด้วยเช่นกัน F50Dนั้นมีสมรรถนะที่ต่ำกว่าที่ SNRIต้องการและไม่ผ่านการพิจารณาของกองทัพสหพันธ์โลกซึ่งในที่สุดนั้น SNRIก็เปลี่ยนแนวทางของโปรเจ็คท์ฟอร์มูลามาเป็นการลดขนาดของ MSทั่วๆไปให้เล็กลงแทน F50Dเครื่องหนึ่งนั้นอยู่ในการครอบครองของรอย ยุง เจ้าของพิพิธภัณฑ์สงครามในโคโลนีฟรอนเทีย 4 ซึ่งได้ตั้งชื่อกับรหัสให้ใหม่ว่า RXR-44 กันแทงก์ R-44 ตามที่ร่างดูคล้ายกับกันแทงก์และรอยได้ F50Dมาตอนอายุ 44 ปี ซึ่งรอยนั้นได้แต่งและซ่อมบำรุงกันแทงก์ R-44ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้โดยตั้งใจจะเอามาใช้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินโดยรอยใช้ชิ้นส่วนจาก MSรุ่นเก่าอื่นๆ กันแทงก์ R-44จึงมีมือจับซึ่งนิ้วเป็นปืนและติดมิสไซล์พ็อดสี่ลำกล้องไว้ที่แขนทั้งสองข้าง กันแทงก์ R-44ยังมีรุ่นเสริมอาวุธโดยติดอาวุธมากขึ้นอย่างบีมแคนน่อนและมาชีนแคนน่อนของ Gแคนน่อน พร้อมติดเครื่องปล่อยควันพรางตา แต่ในตอนที่กองกำลังครอสโบนแวนการ์ดบุกโจมตีฟรอนเทีย 4ซึ่งรอยก็ได้เอากันแทงก์ R-44ออกมานั้น การซ่อมบำรุงที่ไม่ดีพอทำให้ระบบขัดข้องหลายๆอย่างซึ่งรวมถึงไม่สามารถปิดค็อกพิตได้และปืนใหญ่ข้างหนึ่งก็ระเบิดเพราะทนแรงอัดขณะยิงปืนไม่ได้

rxr-44.jpg

F50D Guntank R-44 Powered Weapon Type

First appearance Gundam F91 Mobile Suit Variations
Designer Kunio Okawara
Head height 10.3 m
Base weight 8.7 t Full weight 20.8 t
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Power output 1050 kW
Armaments

  • finger launcher
  • 2-barrel beam cannon
  • 4-barrel 130 mm machine cannon
  • 8-barrel 20 mm gatling gun
  • 35 mm machine gun
  • 20 mm machine gun
  • smoke discharger
Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License