กันดั้ม F91
f91.jpg

F91 Gundam F91

First appearance Mobile Suit Gundam F91
Designer Yoshikazu Yasuhiko
Head height 15.2 m
Base weight 7.2 t Full weight 19.9 t
Armor gundarium alloy/ceramic composite
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Power output 4250 kW
Special feature bio-computer, MePe (Metal Peel-off effect)
Armaments

  • beam saber
  • vulcan gun
  • mega machine cannon
  • beam rifle
  • VSBR
  • beam launcher
  • beam shield

MSที่สมบูรณ์แบบของซีรีส์ F9 ซึ่งเป็น MSสมรรถนะสูงแบบลดขนาดในโปรเจ็คฟอร์มูลาของ SNRI (Strategic Naval Research Institute) การพัฒนาพื้นฐานของกันดั้ม F91นั้นเสร็จตั้งแต่ปี 0116 แต่ SNRIก็ค่อยๆปรับปรุงรูปแบบและเทคโนโลยีที่ใช้มาตลอดจากการทดลองกับกันดั้ม F90 รูปแบบที่สมบูรณ์ของ F91นั้นปรับปรุงมาจาก F90V ซึ่งมีอาวุธเด่นคือบีมชิลด์ที่แผ่บีมออกมาเหมือนโล่จึงสามารถใช้ป้องกันทั้งจากการโจมตีทางกายภาพและบีมได้อย่างสมบูรณ์แบบและสามารถใช้โจมตีได้แบบบีมเซเบอร์ด้วย กันดั้ม F91นั้นมีบีมชิลด์หลักติดไว้ที่แขนซ้ายกับบีมชิลด์สำรองเก็บไว้ที่เอวด้านขวา อาวุธสำคัญอีกอย่างก็คือเวสเบอร์ (VSBR = Variable Speed Beam Rifle) ซึ่งสามารถปรับโหมดในการยิงได้สองโหมดระหว่างบีมอานุภาพสูงที่มีรัศมีกว้างกับบีมรวมศูนย์ซึ่งมีอานุภาพเจาะทะลวงสูงและใช้เจาะทะลุบีมชิลด์ได้ เวสเบอร์นั้นเชื่อมต่อโดยตรงกับเครื่องกำเนิดพลังงานของกันดั้ม F91 แต่ก็ติดตั้งคอนเดนเซอร์เก็บพลังงานไว้จึงสามารถถอดออกมาใช้เป็นอาวุธมือถือได้ ในขณะที่ไม่ใช้งานนั้นเวสเบอร์ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ AMBAC อีกด้วย อาวุธอื่นๆของกันดั้ม F91นั้นประกอบด้วย บีมเซเบอร์ บีมไรเฟิล ปืนวัลแคน บีมลันเชอร์ และเมกามาชีนแคนน่อน

กันดั้ม F91ยังใช้ไบโอคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นระบบไซคอมมิวแบบกลับสำหรับรับข้อมูลจากภายนอกและป้อนให้กับสมองของนักบินโดยตรง ทำให้นักบินมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วขึ้นและนักบินทั่วไปก็สามารถใช้ไบโอคอมพิวเตอร์ได้ ระดับพลังงานที่กันดั้ม F91ใช้นั้นทำให้มีปัญหาด้านการระบายความร้อน ซึ่งที่ไหล่ของกันดั้ม F91จะมีครีบระบายความร้อนติดไว้ และเมื่อเปิดระบบระบายความร้อนเต็มที่ ครีบระบายความร้อนที่ไหล่ก็จะยื่นออกมาและกางออกพร้อมกับที่เกราะส่วนหน้าจะเปิดให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อกันดั้ม F91เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงในสภาพที่เปิดระบบระบายความร้อนก็จะทำให้เกิดภาพติดตาจากความร้อนจนดูเหมือนว่ากันดั้ม F91แยกร่างได้ และผิวเกราะของกันดั้ม F91ยังจะเกิดการลอกล่อนออกมา (เรียกว่า MePe = Metal Peel-off effect) เซนเซอร์ต่างๆจึงจับสัญญาณโลหะได้เหมือนอยู่ตรงนั้นจริงๆ ทำให้ศัตรูสบสนได้ง่ายมาก

กันดั้ม F91ผ่านการทดสอบภาคสนามในปี 0122 ซึ่งเป็นการทดสอบในสนามรบจริงกับกองกำลังโอลด์โมบิลของซีอ้อน โดยในขณะนั้นยังไม่ได้ติดตั้งไบโอคอมพิวเตอร์และมีนักบินคือเบลฟ สเครทซึ่งเป็นนักบินเดิมของกันดั้ม F90 กันดั้ม F91นั้นได้รับการพัฒนาจนสมบูรณ์ในปี 0123พร้อมกับได้นักบินคนใหม่คือซีบุ๊ค อาโน ซึ่งได้มีบทบาทสำคัญในการใช้กันดั้ม F91ต่อสู้กับคอสโมบาบิโลเนียต่อมา สหพันธ์โลกยังได้ทำการผลิตกันดั้ม F91 เป็นจำนวนจำกัด ซึ่งรุ่นผลิตใช้งานนี้มีลักษณะภายนอกและสมรรถนะโดยรวมที่ไม่ต่างจากเครื่องต้นแบบ แต่เนื่องจากระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเปิดใช้กำลังเต็มที่ MePe จึงไม่ทำให้เกิดภาพติดตาอีก ในจำนวนกันดั้ม F91รุ่นผลิตใช้งานนี้มีเครื่องของผู้กองแฮริสัน มาดินซึ่งภายนอกทาสีน้ำเงินและเพิ่มประสิทธิภาพของไบโอคอมพิวเตอร์กับระบบระบายความร้อนให้ดียิ่งขึ้นอีก

นอกจากรูปแบบปกติแล้ว กันดั้มF91ยังมีรูปแบบพิเศษคือ HWF-91 รุ่นติดตั้งอาวุธหนัก ซึ่งเปลี่ยน VSBRเป็นบีมแก็ตลิ่งสี่ลำกล้องและมิสไซล์ลันเชอร์ต่อต้านยานรบสองลำกล้องพร้อมกับเสริมความแข็งแกร่งของเกราะไหล่อีกด้วย อีกรุ่นก็คือทวิน VSBR ซึ่งเปลี่ยนแบ็คแพ็คเป็นแบบที่ติด VSBRเข้าไปอีกสองกระบอกซึ่งในขณะเตรียมยิงนั้นจะพับขึ้นเหนือบ่า F91แบบทวิน VSBRนี้มีกำลังเครื่องที่สูงขึ้นจึงสามารถใช้บีมชิลด์ติดแขนพร้อมกันสองข้างได้ และในเกม Gundam Try Age ก็มี กันดั้ม F91RR (ดับเบิลR) ซึ่งเป็นกันดั้ม F91ที่ติดตั้งอัพเกรดพาร์ท โกรอัพยูนิต โกรอัพยูนิตนั้นคล้ายกับเกราะฟุลอาเมอร์แต่ยังได้เปลี่ยนชิ้นส่วนอย่างเกราะแขนหรือแบ็คแพ็คด้วยจึงปลดออกระหว่างการต่อสู้ไม่ได้ แต่ก็ทำให้สมรรถนะของ F91RRสูงขึ้นมากแม้ว่ารูปร่างจะเทอะทะขึ้นคล้ายกับ MSรุ่นเก่า เกราะแขนของ F91RRนั้นติดบีมชิลด์ขนาดใหญ่กว่าเดิมไว้คู่กับ VSBRขนาดเล็ก และที่หน้าแข้งก็มี VSBRขนาดเล็ก แบ็คแพ็คของ F91RRยังติด VSBRเซเบอร์ ซึ่งเป็น VSBRที่เอามาใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้

ในเกม Gundam Breaker Mobile ยังมี กันดั้มวาลคิวเรีย กันพลาที่แต่งมาจากกันดั้ม F91 ของงมิยามะ ซานะ สมาชิกชมรมกันพลาโรงเรียนโซไค กันดั้มวาลคิวเรียนั้นเป็นผลงานของโคโตโมริ รันซึ่งเป็นผู้ออกแบบกันดั้มอาร์เทมิสและกันดั้มอาเรอุสของฟุโด ริวเซย์ กันดั้มวาลคิวเรียนั้นมีชิ้นส่วนแบบผลึกใสติดอยู่ทั่วตัว เกราะไหล่ทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นแบบเปิดได้ซึ่งดัดแปลงมาจากของไชน์นิงกันดั้ม เกราะแขนซ้ายก็ดัดแปลงมาจากของไชน์นิงกันดั้มโดยติดบีมชิลด์ไว้ด้วย เมกามาชีนแคนน่อนนั้นเปลี่ยนเป็นบีมวัลแคน และ VSBR ก็สามารถปล่อยออกไปบังคับยิงจากระยะไกลเป็นเวสเบอร์ฟันเนลได้ กันดั้มวาลคิวเรียยังมีโหมด S.A.N.A (Super Absolute Noble Afterimage) ซึ่งดัดแปลงมาจาก MePe โดยเกราะตามตัวจะเปิดออกและกระจายอนุภาคผลึกออกไป

hwf91.jpg

HWF91 Gundam F91 Heavy Weapons type

First appearance Gundam F91 Mobile Suit Variations
Designer Kunio Okawara

f91-twinvsbr.jpg

F91 Gundam F91 Twin VSBR type

First appearance Gundam F91 Mobile Suit Variations
Designer Kunio Okawara

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License