FA อื่นๆ
rf-9.jpg

RF-9 Revenant Eye

First appearance Multi Assemble Mechanics Unit Frame Arms
Height 16 m
Special feature 3D holo-projecter
Armaments

  • laser multi-plier
  • free style rifle
  • escape grenade

FA ที่พัฒนาให้กองกำลังพิเศษ SCARU (Special Combat Allround Rescue Unit) ซึ่งมีหน้าที่สนับสนุนกองทัพโลกนอกเหนือไปจากภารกิจต่อสู้หลักอย่างงานกู้ภัยและสอดแนม เรเวแนนท์อายนั้นได้รับการออกแบบให้สามารถปรับแต่งตามการใช้งานได้มากจึงมีโครงสร้างหลักที่เรียบง่ายและเบา รูปแบบพื้นฐานของเรเวแนนท์อายนั้นเน้นการใช้งานสอดแนมและลาดตะเวนโดยมีเซนเซอร์อยู่ตามส่วนต่างๆและส่วนหัวก็เป็นเซนเซอร์ที่ออกแบบพิเศษเรียกว่าสกัลอาย เรเวแนนท์อายยังสามารถเปลี่ยนส่วนหัวเป็นแบบจานเรดาร์ได้ซึ่งจะขยายระยะของการตรวจจับได้ถึงสิบกิโลเมตร แผงด้านหลังสองข้างนั้นเป็นเซนเซอร์บอร์ดซึ่งก็สามารถกางออกเป็นหางเสือได้ ส่วนเท้านั้นติดล้อสำหรับแล่นบนพื้นไว้ ทั้งยังมีเครื่องฮายโฮโลแกรมสามมิติกับเกรเน็ดสำหรับใช้ในตอนถอนกำลัง อาวุธมาตรฐานของเรเวแนนท์อายนั้นเป็นปืนฟรีสไตล์ไรเฟิล และสามารถเปลี่ยนแขนจากมือเป็นเลเซอร์มัลติพลายเออร์ซึ่งเป็นทั้งคีมสำหรับทำงานและปืนเลเซอร์ที่สามารถใช้เป็นมีดเลเซอร์ได้ นอกจากหน่วย SCARU แล้วยังมีการผลิตเรเวแนนท์อายให้กองกำลังอื่นๆใช้งานด้วยและมีการดัดแปลงใช้งานเป็นรูปแบบต่างๆมากมาย


exf-1032.jpg

EXF-10/32 Greifen

Designer Tomotake Kinoshita
Height 15 m
Armaments

  • sub arm
  • spear gun
  • multipurpose launcher

FA ที่พัฒนามาจาก EXF-10 เอ็กซ์เทนชันเฟรมไกรเฟนซึ่งเป็นคู่แข่งของ Fa/Type001 เฟรมอาร์คิเทค ไกรเฟนนั้นมีจุดเด่นที่ส่วนขาแบบสองข้อซึ่งพับไปด้านหลังและทั้งที่แขนกับขาก็มีแขนกลพับเก็บไว้ เมื่อเทียบกับเฟรมอาร์คิเทคแล้วเอ็กซ์เทนชันเฟรมมีความทนทานและเหมาะกับการใช้งานที่หนักกว่ามาก และแม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าเฟรมอาร์คิเทคเนื่องจากราคาแพงแต่ก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมพิเศษอย่างก้นทะเลหรือในอวกาศมากกว่า ในช่วงที่กองทัพ FA ไร้คนบังคับของดวงจันทร์เริ่มโจมตีโลกนั้นจึงได้ดัดแปลงเป็น FAสำหรับใช้ต่อสู้ในน้ำ โดยมีอาวุธหลักเป็นลันเชอร์อนเกประสงค์ติดแขนสองข้างเสริมด้วยปืนยิงฉมวกติดลำตัว ระบบแขนกลของไกรเฟนยังทำให้สามารถติดอาวุธได้มากและสามารถใช้เป็นเหมือนคีมขนาดใหญ่ที่มีกำลังพอหนีบขยี้ FA ด้วยกันได้ บริษัทผู้พัฒนาไกรเฟนจากเยอรมันนั้นยังได้พัฒนา EXF-10/52 อาเมอร์ไกรเฟน สำหรับใช้งานภาคพื้นดินและในอวกาศโดยเน้นด้านพลังในการต่อสู้มากขึ้น ส่วนแขนกลทั้งสี่ข้างถูกเอาออกไปแต่ส่วนเท้านั้นออกแบบให้แยกเป็นคีมได้ตามเดิม ส่วนหัวออกแบบให้มีเกราะป้องกันแบบเลื่อนปิดเปิดได้ อาเมอร์ไกรเฟนนั้นสามารถติดมิสไซล์คอนเทนเนอร์เสริมได้ที่หน้าอก ไหล่ ขา และด้านหลัง ซึ่งในกรณีที่ใช้งานบนโลกนั้นมักจะเลือกติดไม่ให้หนักเกินไปนัก ที่แขนทั้งสองยังสามารถติดรีวอลเวอร์แคนน่อน 20 มม.แบบสองลำกล้องได้ แต่หลังจากที่กองทัพโลกทราบว่าผู้พัฒนาไกรเฟนนั้นได้เตรียมลักลอบขายอาเมอร์ไกรเฟนให้กองกำลังนอกสังกัดกองทัพโลกซึ่งรวมถึงชะลอการส่งมอบอาเมอร์ไกรเฟนให้กองทัพโลก การผลิตอาเมอร์ไกรเฟนจึงถูกระงับพร้อมกับที่ทีมพัฒนาถูกไล่ออก การผลิตอาเมอร์ไกรเฟนนั้นได้เริ่มใหม่อีกครั้งในช่วงแผนการขยายกองกำลังของกองทัพโลกโดยที่ได้แยกผลิตชิ้นส่วนเสริมของอาเมอร์ไกรเฟนเป็น EXU-03 ซึ่งสามารถติดตั้งให้ FA รุ่นอื่นอย่างโกไรได้


nsg-04.jpg

NSG-04δ Weisheit

First appearance Multi Assemble Mechanics Unit Frame Arms
Designer Naoki
Armaments

  • ion booster cannon
  • beam orb gun

FAแบบไร้คนบังคับของดวงจันทร์ซึ่งเป็นกำลังหลักในการโจมตีโลกระลอกสองและพัฒนาจากข้อมูลการใช้งานของแวร์วูล์ฟสเปคเตอร์ โครงสร้างนั้นเป็นแบบเฟรมอาร์คิเทค Fa/Type001 โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ NSG-12α เป็นกำลังรบหลัก เฟรมอาร์คิเทคนั้นผ่านการปรับแต่งให้สัดส่วนต่างจากปกติคือมีส่วนลำตัวเล็กเมื่อเทียบกับแขนขาและส่วนหัวก็ต่อเข้ากับลำตัวอย่างง่ายๆ โคบอล์ดนั้นนับว่ามีพลังในการต่อสู้ที่สูงผิดกับลักษณะภายนอกที่ดูเหมือนอ่อนแอและประกอบง่ายๆ แม้จะเป็น FAสำหรับต่อสู้ภาคพื้นดินแต่ก็ติดบูสเตอร์ไว้ด้านหลังให้กระโดดได้ดีจึงว่องไวมาก ช่วงแขนที่ยาวนั้นยังใช้ในการต่อสู้ระยะประชิดตัวได้ดีมากและมีพละกำลังที่เทียบได้กับโกไร โคบอล์ดยังสามารถเปลี่ยนส่วนแขนแต่ละข้างเป็นแบบติดปืนบีมออร์บกันขนาดใหญ่แทนมือซึ่งเป็นอาวุธบีมที่มีอานุภาพรุนแรงมากแม้ว่าโคบอล์ดเองจะไม่มีพลังพอให้ยิงต่อเนื่องได้ เกราะของโคบอล์ดยังมีความทนทานพอที่จะทนปืนใหญ่ 120 มม.ของโกไรได้แต่เนื่องจากมีส่วนของโครงสร้างที่ไม่หุ้มเกราะอยู่มากโดยเฉพาะส่วนไหล่และด้านหลังจึงนับว่าไม่เป็นปัญหานัก โคบอล์ดนั้นมักจะปฏิบัติการคู่กับ NSG-25γ ชทรอส ซึ่งโครงสร้างเฟรมอาร์คิเทคนั้นดูไม่เหมือนมนุษย์อีก ส่วนขาของชทรอสนั้นติดเครื่องกำเนิดพลังงานเสริมไว้จึงมีกำลังที่มากกว่าโคบอล์ด มีความเร็วภาคพื้นดินถึง 250 กม.ต่อชั่วโมงและแม้จะไม่เปิดบูสเตอร์ที่ติดไว้ก็สามารถกระโดดได้สูงมาก ส่วนหัวที่ติดกับคอยาวของชทรอสนั้นเป็นอาวุธบีม อิออนบูสเตอร์แคนน่อน และแขนแบบก้ามสองข้างก็เป็น เลเซิร์ดไบท์คลอว์ แต่โดยปกติแล้วชทรอสจะทำหน้าที่ยิงสนับสนุนโคบอล์ดจากระยะไกลโดยสามารถติดมิสไซล์ลันเชอร์เพิ่มไว้ที่ขาได้

หลังจากโคบอล์ดกับชทรอส กองทัพโลกก็ได้เผชิญหน้ากับ NSG-04δ ไวส์ไฮท์ ซึ่งมีลักษณะแบบมนุษย์เต็มตัวและในตอนแรกก็เข้าใจว่าเป็น FA รุ่นใหม่ แต่แท้จริงแล้วนั้น FA ทั้งสามล้วนแต่ใช้ชิ้นส่วนร่วมกันหมด และทั้งโคบอล์ดกับชทรอสก็เป็นเหมือนรุ่นย่อยที่พัฒนาตามการใช้งานของไวส์ไฮท์ ไวส์ไฮท์นั้นมีความเร็วที่ด้อยกว่าโคบอล์ดกับชทรอสแต่มีพลังป้องกันที่สูงมาก อาวุธหลักนั้นเป็นบีมออร์บกันแบบเดียวกับของโคบอล์ดโดยนอกจากติดแขนแล้วยังสามารถนำมาติดด้านหลังได้ ซึ่งเครื่องกำเนิดพลังงานเสริมของชทรอสนั้นทำให้สามารุใช้งานได้มีประสิทธิภาพกว่าโคบอล์ดมาก ทั้งยังสามารถนำอิออนบูสเตอร์แคนน่อนของชทรอสมาติดแขนและใช้งานแบบอาวุธมือถือได้

nsg-12.jpg

NSG-12α Kobold

Armaments

  • beam orb gun
Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License