ฟอร์บิดเดนกันดั้ม

GAT-X252 Forbidden Gundam

First appearance Mobile Suit Gundam SEED
Designer Kunio Okawara
Head height 17.47 m
Weight 85.33 t
Armor Trans Phase armor
Special feature 'Geschmeidig Panzer' energy deflection armor
Armaments

  • 'Nidhoggr' heavy scythe
  • ''Igelstellung' 75 mm CIWS
  • 'Armfeuer' 115 mm machine gun
  • 'Eckzahn' 88 mm railgun
  • 'Hresvelgr' plasma cannon
  • shield

หนึ่งใน GAT-Xซีรีส์รุ่นใหม่ที่กลุ่มพันธมิตรโลกพัฒนาตามการสนับสนุนของสถาบันอัซราเอล ฟอร์บิดเดนกันดั้มนั้นพัฒนาตามแนวคิดของบลิทซ์กันดั้มซึ่งใช้งานอนุภาคมิราจคอลลอยด์แต่เปลี่ยนมาใช้เพื่อการป้องกัน ฟอร์บิดเดนกันดั้มนั้นมีจุดเด่นคือแบ็คแพ็คขนาดใหญ่ด้านหลังสามารถเลื่อนขึ้นมาคลุมส่วนหัวของฟอร์บิดเดนกันดั้มไว้กับโล่สองแผงบังด้านข้างเป็นโหมดจู่โจมที่เหมาะกับการต่อสู้ระยะไกล เกราะแบ็คแพ็คนี้มีระบบเกชไมดิคแพนเซอร์ซึ่งแผ่อนุภาคมิราจคอลลอยด์ออกมาโดยรอบเพื่อเบี่ยงลำแสงของอาวุธบีมออกไปจากฟอร์บิดเดนกันดั้ม แม้ว่าเกชไมดิคแพนเซอร์จะต้องใช้พลังงานแต่ด้วยแบตเตอรีที่เก็บพลังงานได้มากขึ้นและใช้เกราะ TPจึงไม่เป็นปัญหามากนัก ในโหมดจู่โจมนี้ฟอร์บิดเดนกันดั้มจะใช้อาวุธเป็นปืนพลาสม่า เฮรสเวลก์ ที่อยู่กลางแบ็คแพ็คกับเรลกัน เอคแซน สองกระบอก ซึ่งฟอร์บิดเดนกันดั้มนั้นสามารถใช้สนามแม่เหล็กระหว่างเอคแซนสองกระบอกเบี่ยงวิถีของเฮรสเวลก์ทำให้ยิงออกไปเป็นเส้นโค้งจึงคาดเดาวิถีได้ยาก ในขณะที่ใช้โหมดจู่โจมนี้ฟอร์บิดเดนกันดั้มยังต้านลมน้อยลงและมีกำลังขับเคลื่อนพอที่จะบินกลางอากาศได้ เมื่อเข้าต่อสู้ในระยะประชิดตัวฟอร์บิดเดนกันดั้มก็จะเลื่อนแบ็คแพ็คกลับไปด้านหลังและใช้เคียวเป็นอาวุธ เคียวของฟอร์บิดเดนนี้ใช้เทคนิคการตีดาบโลหะผสมของเกรฟยาร์ดจึงคมมากและที่หัวเคียวก็มีหอกสำหรับแทงอยู่ด้วย ที่หัวของฟอร์บิดเดนกันดั้มนั้นติดปืนวัลแคนไว้และที่แขนทั้งสองข้างก็มีปืนกลติดไว้ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งสองโหมด ฟอร์บิดเดนกันดั้มนั้นยังไม่ได้ติดตั้ง OSที่คนทั่วไปใช้งานได้และใช้มนุษย์ดัดแปลงที่เรียกว่าบูสต์แมนเป็นนักบิน โดยเป็น MSประจำตัวของชานิ แอนดราส

เนื่องจากแบ็คแพ็คของฟอร์บิดเดนกันดั้มนั้นทนแรงกดได้สูงจึงใช้งานในน้ำได้ดี กลุ่มพันธมิตรโลกก็ได้พัฒนารูปแบบของฟอร์บิดเดนกันดั้มต่อมาเป็น MSแบบสะเทินน้ำสะเทินบก GAT-X255 ฟอร์บิดเดนบลู ซึ่งต่างจาก MSแบบสะเทินน้ำสะเทินบกของ ZAFT คือไม่ได้ใช้โครงสร้างสำหรับรับแรงกดของน้ำแต่ใช้เกชไมดิคแพนเซอร์ควบคุมการไหลของน้ำรอบๆตัวฟอร์บิดเดนบลูเป็นระบบขับเคลื่อนในตัว ซึ่งทำให้ฟอร์บิดเดนบลูต้านน้ำน้อยลงและสามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างรวดเร็วมาก อาวุธติดแบ็คแพ็คนั้นเปลี่ยนเรลกันเป็นตอร์ปิโดความเร็วสูงและติดปืนคลื่นเสียงโฟนอนเมเซอร์แทนปืนพลาสมา เคียวของฟอร์บิดเดนนั้นได้ดัดแปลงโดยย้ายไปติดเป็นกรงเล็บที่โล่ทั้งสองข้าง ส่วนอาวุธมือถือเปลี่ยนเป็นเป็นสามง่ามเพื่อให้เหมาะกับการต่อสู้ใต้น้ำมากกว่าเดิม ปืนกลติดแขนที่ใช้งานเฉพาะการโจมตีเหนือน้ำนั้นจะปิดลำกล้องกันน้ำไว้ ฟอร์บิดเดนบลูยังมีส่วนหางยาวซึ่งใช้ประโยชน์ได้ทั้งรับสัญญาณโซนาร์ในน้ำและเป็นเหมือนสมอสำหรับล็อกตัวเองกับวัตถุต่างๆ ข้อบกพร่องของฟอร์บิดเดนบลูก็คือแม้ว่าระบบป้องกันด้วยเกชไมดิคแพนเซอร์นั้นจะทำให้ดำน้ำได้ลึกมาก แต่ถ้าพลังงานเหลือน้อยจนไม่สามารถใช้เกชไมดิคแพนเซอร์กับเกราะ TPในขณะที่ดำน้ำความลึกมากแล้วฟอร์บิดเดนบลูก็จะถูกแรงกดของน้ำอัดจนพังทันที ซึ่งข้อบกพร่องนี้ได้รับการแก้ไขเมื่อกลุ่มพันธมิตรโลกได้ทำการพัฒนารุ่นผลิตจำนวนมากคือ GAT-706S ดีพฟอร์บิดเดน โดยเสริมโครงไททาเนียมไว้รอบส่วนค็อกพิตสำหรับรับแรงกดเพื่อให้นักบินมีโอกาสรอดมากขึ้นหากพลังงานเหลือน้อยในขณะที่ดำน้ำลึกอยู่ ดีพฟอร์บิดเดนนั้นไม่มีปืนกลติดแขนและหัวอีกแต่ที่แขนจะมีฮาร์ดพอยน์สำหรับติดอุปกรณ์ตามสถานการณ์ และต่อมาก็ได้ผลิต GAT-707E ฟอร์บิดเดนวอเท็กซ์ ซึ่งมีรูปร่างและอาวุธแบบฟอร์บิดเดนบลูแต่เสริมไททาเนียมแบบดีพฟอร์บิดเดน นักบินทดสอบของฟอร์บิดเดนบลูผู้มีชื่อเสียงก็คือ เจน ฮิวส์ตัน ผู้มีฉายาว่า วาฬเผือก

บริษัทแอ็คทายออนนั้นก็ได้ปรับปรุงรูปแบบของฟอร์บิดเดนกันดั้มโดยมีวาเลริโอ วาเลรีเป็นผู้ดูแลโครงการ เนื่องจากการสร้างฟอร์บิดเดนกันดั้มใหม่นั้นจะมีค่าใช้จ่ายมากไป วาเลริโอจึงใช้วิธีดัดแปลงฟอร์บิดเดนวอเท็กซ์ให้กลับไปเป็นแบบฟอร์บิดเดนกันดั้ม เรียกว่า GAT-X252R รอตฟอร์บิดเดน โดยเน้นที่การเพิ่มพลังป้องกันเป็นสองเท่าของฟอร์บิดเดนกันดั้มพร้อมกับแก้ไขจุดอ่อนบางประการโดยเสริมจุดแผ่อนุภาคมิราจคอลลอยด์ของเกชไมดิคแพนเซอร์ที่เกราะกระโปรงและขาจึงสามารถป้องกันบีมได้ทั้งตัว ปืนเฮรสเวลก์นั้นได้ใช้แบบที่มีลำกล้องยื่นออกมาและมีพลังทำลายสูงขึ้นพร้อมกับเสริมบีมแคนน่อนแบบสาดกระจายไว้อีกสองกระบอกที่แบ็คแพ็ค เคียวก็ถูกเปลี่ยนเป็นแบบสองคมซึ่งหัวหอกที่ปลายก็เพิ่มเป็นสองหัวด้วย

gat-x255.jpg

GAT-X255 Forbidden Blue

First appearance Gundam SEED Mobile Suit Variations
Designer Kunio Okawara
Head height 17.47 m
Armor Trans Phase armor
Special feature 'Geschmeidig Panzer' energy deflection armor
Armaments

  • trident
  • ''Igelstellung' 75 mm CIWS
  • 'Armfeuer' 115 mm machine gun
  • supercavitating torpedo canister pod
  • phonon maser cannon
  • shield ('Nidhoggr' blade)
Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License