MA-05 Bigro
First appearance Mobile Suit Gundam
Designer Kunio Okawara
Overall length 45.5 m
Base weight 125.5 t Full weight 229.8 t
Armor super-hard steel alloy
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Power output 17800 kW
Armaments
- claw arm
- 4-tube missile launcher
- mega particle cannon
MAของซีอ้อนซึ่งที่ดัดแปลงมาจาาก MIP-X1 MAรุ่นต้นแบบที่เป็นคู่แข่งของ MS ซึ่งเมื่อเทียบกับ MSที่สามารถใช้การเคลื่อนไหวของแขนขาบังคับทิศทางได้ด้วย AMBAC (Active Mass Balance Auto Control)แล้ว MIP-X1จะใช้ท่อขับดันในการเคลื่อนไหวทั้งหมดจึงสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกว่ามาก แต่หลังจากที่สงครามหนึ่งปีเริ่มขึ้น MAที่มีขนาดใหญ่นั้นทำให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ซึ่ง MSไม่สามารถใช้งานได้จึงได้ดัดแปลง MIP-X1มาเป็น MAรุ่นผลิตจำนวนมากสำหรับใช้งานในอวกาศโดยเฉพาะ บิโกรนั้นใช้เครื่องยนต์จรวดที่มีกำลังมากเพื่อให้มีความเร็วสูงสำหรับใช้โจมตีแบบฉาบฉวย โดยมีอาวุธหลักเป็นปืนอนุภาคด้านหน้ากับมิสไซล์ลันเชอร์สี่ลำกล้องเป็นอาวุธเสริม บิโกรยังติดแขนกรงเล็บขนาดใหญ่สองข้างซึ่งทำให้สามารถใช้ AMBACบังคับทิศทางได้ในระดับหนึ่งและกลับลำ 180 องศาได้ในเวลาเพียง 1.3 วินาทีเท่านั้น และ แต่ในขณะที่ใช้ความเร็วสูงมากนั้นนักบินส่วนใหญ่จะทนแรงกดไม่ได้
รูปแบบของบิโกรได้รับการดัดแปลงเป็น MA-05Ad บิ๊กแรงก์ โดยได้ดัดแปลงตัวถังของยานแม่ติดใต้ตัวบิโกรเหมือนเป็นเกราะกระโปรงขนาดใหญ่เรียกว่าสเกิร์ตเชลซึ่งสามารถใช้เป็นสถานีรบให้ MSหรือพาหนะขนาดเล็กอื่นๆเข้าไปทำการเติมเชื้อเพลิงหรือซ่อมบำรุงได้ บิ๊กแรงก์นั้นได้รับการออกแบบให้เป็นเหมือนยานแม่ของโมบิลพ็อด อ็อกโก ซึ่งในสเกิร์ตเชลนั้นมีแขนกลสำหรับใช้เก็บและซ่อมแซมอ็อกโกโดยที่นักบินของบิ๊กแรงก์จะเป็นผู้บังคับทั้งหมด ในสเกิร์ตเชลนี้ยังมีมิสไซล์ต่อต้านยานรบและพลุป้องกันบีมซึ่งจะกระจายอนุภาคมินอฟสกีอย่างหนาแน่นออกมาเพื่อป้องกันบีมที่ยิงจากภายนอก บิ๊กแรงก์ยังมีกำลังมากกว่าเดิมซึ่งทำให้ปืนใหญ่มหาอนุภาคมีอานุภาพสูงขึ้นมาก จุดอ่อนของบิ๊กแรงก์ก็คือแม้จะเสริมบูสเตอร์ให้สเกิร์ตเชลแล้วก็ยังมีความเร็วที่ต่ำมาก บิ๊กแรงก์นั้นได้ใช้ในการรบที่อบาวอากู โดยที่กัปตันมาร์ติน พร็อคโนได้เลือกให้โอลิเวอร์ มาย วิศวกรผู้สังเกตการของหน่วย 603 เป็นนักบินของบิ๊กแรงก์เนื่องจากเป็นคนที่เข้าใจการทำงานของบิ๊กแรงก์ดีที่สุด
บิโกรอีกรุ่นก็คือ MA-05R บิ๊กรุฟ ซึ่งเป็นบิโกรที่ได้รับการดัดแปลงสำหรับเป็นหัวหอกนำในการโจมตีกองยานศัตรู ด้านล่างของบิ๊กรุฟนั้นติดตั้งมิสไซล์ความยาวกว่า 100 เมตรซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ปราการอวกาศใช้ทำลายยานรบ ตัวเครื่องเดิมของบิโกรนั้นติดตั้งบูสเตอร์เสริมเพื่อให้มีกำลังขับเคลื่อนพอใช้บังคับทิศทางของมิสไซล์ได้และก็ติดมิสไซล์พ็อดเสริมไว้กับบูสเตอร์ด้วย โดยหลังจากที่ยิงมิสไซล์ใส่เป้าหมายแล้วบิ๊กรุฟก็จะใช้ความเร็วกลับไปยังอบาวอากู กองทัพซีอ้อนได้ดัดแปลงบิโกรจำนวนสามเครื่องเป็นบิ๊กรุฟ แต่การบังคับบิ๊กรุฟที่ต้องพามิสไซล์ขนาดใหญ่ไปปล่อยใส่เป้าหมายนั้นค่อนข้างยาก ในช่วงที่บินทดสอบนั้นจึงได้ร้อยเอกโรเบิร์ท กิเลียมเป็นนักบินทดสอบให้ บิ๊กรุฟทั้งสามเครื่องได้เข้าร่วมในการรบที่ที่อบาวอากูและถูกทำลายทั้งหมด ในทางเทคนิคนั้นบิ๊กรุฟสามารถเปลี่ยนมิสไซล์เป็นอุปกรณ์อื่นๆได้แบบโมบิลไดเวอร์ของเซก็อก
นอกจากนั้นยังมี MA-05M บิโกรไมเยอร์ ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้สามารถต่อสู้กับ MSได้ดีขึ้นโดยเพิ่มกำลังเครื่องยต์และเปลี่ยนแขนกรงเล็บเป็นแบบติดบีมแคนน่อน ส่วนแขนนี้เคลื่อนไหวได้มากกว่าเดิมและสามารถพับเก็บไว้ใต้ส่วนลำตัวได้จึงสามารถเล็งเป้าหมายจากมุมอื่นได้และไม่จำเป็นต้องติดมิสไซล์อีก บิโกรไมเยอร์ยังมีเกราะที่หนาขึ้นและติดท่อขับดันไว้กับส่วนที่เหมือนขาเพื่อให้เปลี่ยนทิศทางได้ง่ายขึ้นอีก รูปแบบของบิโกรยังได้รับการพัฒนาต่อมาเป็น MA-06 วาลวาโล โดยได้เพิ่มเวอเนียร์และท่อขับดันให้มีความเร็วและความคล่องตัวสูงขึ้นอีก วาลวาโลยังหุ้มบีมโคตไว้และสามารถรับการโจมตีจากบีมไรเฟิลได้ พร้อมกับติดอาวุธเสริมเป็นบีมกันต่อต้านอากาศยานและปืนวัลแคน กรงเล็บของวาลวาาโลยังเป็นแบบคีมขนาดใหญ่ที่พับเก็บไว้ใต้ลำตัวได้ วาลวาโลยังมีพลาสม่าลีดเดอร์ซึ่งใช้สร้างกระแสไฟฟ้ารบกวนระบบของ MSที่อยู่ในขอบเขต วาลวาโลเครื่องหนึ่งนั้นเป็นของเคลลี เลซเนอร์ ซึ่งเสียแขนไปในช่วงสงครามหนึ่งปีและได้ดัดแปลงวาลวาโลให้บังคับได้ด้วยแขนข้างเดียว
MAอีกรุ่นที่พัฒนามาจากบิโกรก็คือ MAM-07 กรับโบลซึ่งเป็นแบบใช้งานใต้น้ำโดยเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์ไฮโดรเจ็ต กรับโบลติดตั้งอาวุธเป็นตอร์ปิโดลันเชอร์แบบ 7ลำกล้องเอาไว้สำหรับยิงใส่เป้าหมายที่อยู่ในน้ำหรือตามชายฝั่ง มิสไซล์ลันเชอร์ต่อต้านอากาศยาน และกรงเล็บสำหรับต่อสู้ในระยะประชิดซึ่งปกติจะพับแบบวาลวาโลเพื่อไม่ให้ต้านน้ำ กรับโบลเครื่องหนึ่งยังได้รับการดัดแปลงเป็น MAM-07-X3 เพื่อใช้ทดสอบบิทแบบใช้งานในน้ำ โดยถอดกรงเล็บออกแล้วติดบิทขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยวอเตอร์เจ็ตเข้าไป ระบบไซคอมมิวที่ใช้บังคับบิตของกรับโบลนั้นซับซ้อนมากพอๆกับระบบกึ่งไซคอมมิวที่ใช้ในเวลาต่อมาและสามารถให้คนธรรมดาบังคับได้ แต่หลังการทดสอบได้สองสัปดาห์ โครงการนี้ก็ถูกระงับและดัดแปลงยูนิตทดลองกลับเป็นกรับโบลธรรมดาตามเดิม
MA-05Ad Big Rang
First appearance Mobile Suit Gundam MS IGLOO: Apocalypse 0079
Overall height 138 m
Base weight 12000 t
Armor super-hard steel alloy
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Armaments
- claw arm
- 4-tube missile launcher
- large mega particle cannon
- gatling gun
- 3-tube anti-spaceship missile launcher
- anti-beam chaff launcher
MA-05R Big Ruf
First appearance MSV-R
Armor super-hard steel alloy
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Armaments
- claw arm
- 4-tube missile launcher
- mega particle cannon
- missile pod
- large missile
