RX-121-2 Gundam TR-1 [Hazel II]
First appearance Advance of Zeta: The Flag of Titans
Designer Kenki Fujioka
Overall height 18.1 m
Base weight 42.7 t Full weight 65.4 t
Armor titanium alloy/ceramic, gundarium alloy
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Power output 1420 kW
Armaments
- beam saber
- multipurpose launcher
- beam rifle
- GM rifle
- shield
กันดั้มเฮเซลหมายเลข 2ซึ่งเดิมนั้นเป็นแค่จิมเควลธรรมดาที่แต่งส่วนหัวเป็นแบบกันดั้มเฮเซลและเก็บไว้เป็นเครื่องสำรองของหน่วยทดสอบอาวุธ แต่ต่อมาได้รับการปรับปรุงพร้อมกับลงทะเบียนเป็น RX-121-2 โดยติดโครงเสริมบ่าซึ่งเป็นแบบติดลันเชอร์อเนกประสงค์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมกับติดไทรบูสเตอร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่เดิมออกแบบไว้ให้กันดั้มเฮเซลไว้ด้านหลังแทนบูสเตอร์พ็อด ซึ่งไทรบูสเตอร์นี้เป็นยูนิตขับเคลื่อนซึ่งใช้โครงสร้างแบบมูฟเอเบิลเฟรมรุ่นแรกๆทำให้สามารถปรับทิศทางของท่อขับดันด้านซ้ายขวาได้จึงช่วยบังคับทิศทางด้วย AMBACได้ด้วยและมีส่วนที่เหมือนหางซึ่งเป็นถังเชื้อเพลิงในตัว ไทรบูสเตอร์นี้มีปัญหาที่ส่วนหางที่ยาวนั้นทำให้ศูนย์ถ่วงของไทรบูสเตอร์ห่างจากตัวเฮเซลหมายเลข 2และโมเมนตัมที่เกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวก็สูงมากด้วย และชิ้นส่วนก็ยังเข้ากับเฮเซลหมายเลข 2ได้ไม่ดีนัก แต่ข้อมูลการใช้งานของไทรบูสเตอร์นี้ก็มีความสำคัญต่อทิทานส์อย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างแบบมูฟเอเบิลเฟรมที่ซับซ้อนขึ้นในเวลาต่อมา กันดั้มเฮเซลหมายเลข 2ยังสามารถติดเกราะฟุลอาเมอร์ได้เหมือนหมายเลข 1
ในช่วงศีกกรีปส์ซึ่งทีมทดสอบอาวุธนั้นได้ปรับหน้าที่เป็นหน่วยรบเต็มตัว กันดั้มเฮเซลหมายเลข 2ก็ได้รับการปรับปรุงให้พลังในการต่อสู้เทียบได้กับเฮเซลรุ่นปรับปรุงเป็น RX-121-2A แอดวานซ์เฮเซล โดยเพิ่มจุดล็อกอาวุธตามตัวและสามารถติดอุปกรณ์เสริมอย่างแขนกลได้ ส่วนหัวติดเซนเซอร์เสริมคล้ายกับของจิมสไนเปอร์ทรี ที่ส่วนเท้าติดท่อขับดันขนาดเล็ก ด้านหลังนั้นเปลี่ยนจากไทรบูสเตอร์เป็นมัลติคอนเนคเตอร์พ็อดคล้ายกับบูสเตอร์พ็อดของเฮเซลแต่เปลี่ยนมาใช้สำหรับติดอุปกรณ์ต่างๆซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้ติดชิลด์บูสเตอร์สองแผงโดยล็อกของมัลติคอนเนคเตอร์พ็อดนั้นได้รับการออกแบบให้ทนแรงกดขณะที่ใช้ชิลด์บูสเตอร์ได้ดีกว่าเดิม ชิลด์บูสเตอร์ของแอดวานซ์เฮเซลยังมีแบบใหม่ซึ่งติดบีมกันแบบสาดกระจายไว้สิบกระบอกเพื่อใช้ยิงทำลายมิสไซล์ แต่เนื่องจากส่วนโล่นั้นมีขนาดเท่าเดิมจึงใช้ท่อขับดันที่มีกำลังน้อยกว่าแบบดั้งเดิม
แอดวานซ์เฮเซลยังมีรูปแบบที่เรียกว่าเฮเซลเอาส์ลา ซึ่งเปลี่ยนส่วนลำตัวเป็นยานหนีภัย พริมโรส ที่พัฒนามาจากยานคอร์ไฟเตอร์แต่ให้ใช้เป็นยานหนีภัยและไม่สามารถประกอบเป็น MSระหว่างปฏิบัติการได้ พริมโรสนั้นไม่มีอาวุธในตัวแต่ก็ได้รับการออกแบบให้สามารถประกอบกับอุปกรณ์ต่างๆที่ทีมทดสอบอาวุธใช้งานได้มากมายรวมถึงประกอบกัยยานสนับสนุน ฮรุดด์ ส่วนไหล่ของเฮเซลเอาส์ลามีขนาดเล็กกว่าเดิมแต่ติดล็อกประกอบอุปกรณ์เสริมไว้ซึ่งปกติแล้วจะติดมิสไซล์พ็อดกับพลุสัญญาณ เฮเซลเอาส์ลายังสามารถประกอบกับยานฮรุดด์ทูว์เป็นเฮเซลราห์ทูว์ได้ และยังมีรูปแบบซึ่งไม่เคยใช้งานจริงคือประกอบกับฮรุดด์ทูว์เป็นแบบเฮเซลราห์ทูว์แล้วใช้กิกันติคยูนิตคือมิสไซล์พ็อดกับส่วนแขนของไซโคกันดั้มติดไว้กับดรัมเฟรมของฮรุดด์ทูว์เพื่อใช้บีมแคนน่อนติดนิ้วของไซโคกันดั้มเป็นอาวุธ
ทิทานส์ยังมีแผนพัฒนาเฮเซลเอาส์ลาต่อไปเป็นกันดั้มไฮเซนเธลย์เพื่อใช้ในโครงการ TR-6 แต่หลังจากที่ได้ยกเลิกไปแล้วก็ได้ดัดแปลงรูปแบบและสร้างใหม่เป็น RX-123 กันดั้มเฮเซลแฟลร์แทน ซึ่งเฮเซลแฟลร์นั้นใช้ประกอบกับพาร์ท MAขนาดใหญ่ รับสคัทเทิล ซึ่งปรับปรุงรูปแบบมาจาก TR-4 แดนดีไลออนโดยติดตั้งไดดาลอสยูนิตซึ่งเป็นมินอฟสกีคราฟท์กับเครื่องยนต์เทอโมนิวเคลียร์เจ็ตให้สามารถบินได้ดีขึ้นและออกแบบไบน์เดอร์ให้เพิ่มแรงยกขณะบินได้ รับสคัทเทิลยังสามารถเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้ด้วยตนเอง รับสคัทเทิลนั้นได้รับการออกแบบให้ใช้สกัดเป้าหมายในชั้นบรรยากาศระดับสูงและในอวกาศใกล้กับชั้นบรรยากาศ กันดั้มเฮเซลแฟลร์ยังมีรูปแบบที่ติดพาร์ทเสริมเป็นกันดั้ม TR-S เอลอาห์ไรราห์ ซึ่งได้รับการออกแบบให้ทำหน้าที่คุ้มกันรับสคัทเทิลโดยใช้กิกันติกอาร์มส์กับ Iฟิลด์ป้องกันตัว แต่เอลอาห์ไรราห์นั้นถูกเอวโกยึดไปและปรับปรุงใช้งานเองโดยผสมพาร์ทของแอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกส์เข้าไปด้วย
RX-121-2A Gundam TR-1 [Advanced Hazel]
First appearance Advance of Zeta: The Flag of Titans
Designer Kenki Fujioka
Head height 18.8 m
Base weight 39.5 t Full weight 78.6 t
Armor titanium alloy/ceramic, gundarium alloy
Powerplant Minovsky type ultracompact fusion reactor
Power output 1420 kW
Armaments
- beam saber
- multipurpose launcher
- beam rifle
- shield
- shield booster
- improved shield booster (scatter beam gun)
